วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

คำศัพท์ในเรื่องของเสียง (อื่นๆ)

อิมแพค ( Impact )

จริงๆคำๆนี้ ถ้าใช้กับหูฟังต้องเทียบกับเสียงเบสจะเห็นภาพได้ชัดที่สุดค่ะ คือ จริงๆแล้วความหมายของ impact หมายถึง ต้นเสียงแรกที่มาถึงหูของเราน่ะค่ะ ฟังแล้วเหมือนจะงงๆ ปรกติในวงการนักเล่นเครื่องเสียงเค้ามักจะใช้คำว่า "หัวเสียง" ค่ะ ซึ่ง "หัวเสียง" มีส่วนสำคัญในการจำแนกชิ้นดนตรีๆมากเลยค่ะ เพราะขนาดของ "หัวเสียง" หรือ impact ของแต่ละชิ้นดนตรีจะต้องไม่เท่ากันค่ะ มวลที่ได้ต้องต่างกัน เช่น เสียงกระแทกกลอง หัวเสียงต้องเป็นมวลที่มีขนาดที่ใหญ่กว่าการเคาะแฉ ซึ่งหัวเสียงของกลองจะต้องมาถึงหูเราช้ากว่าแฉ เพราะเป็นเสียงโทนต่ำ ถ้าเกิดมาถึงไวกว่า มิติเสียงดนตรีจะเพี้ยนทันทีเลยค่ะ และถ้าขนาดของหัวเสียงเท่ากันไปหมด ก็จะทำให้ชิ้นดนตรีมีสัดส่วนพิลึกทันทีเลยค่ะ จะขาดความเป็นธรรมชาติลงไปในทันที

ความใส ( Transparency )

ความใสก็คือความใสค่ะ อ๊ะๆ อย่าหาว่ากวนนะคะ เพราะในทางเครื่องเสียงแล้ว Tranparency จะหมายถึงความใสที่ลำโพงสร้างขึ้นมา ทำให้สามารถมองทะลุผ่านหลังแผงดิฟิวเซอร์เข้าไปได้เลยค่ะ เสมือนว่ามีเวทีจำลองตั้งอยู่ในดีฟิวเซอร์จนมองเห็น Image ชัดเจนแจ่มแจ้งเหมือนเราไปชมคอนเสิร์ตจริงๆทีเดียวค่ะ ถ้าในทางหูฟังก็หมายถึงหูฟังนั้น ใส จนจับ image ได้ชัดน่ะค่ะ ไม่มีอาการขุ่นมัวแบบมีม่านบางๆมีบังๆจนจับ image ได้ไม่ชัดเจนเลยน่ะค่ะ

Airy ( Ambient )

จริงๆ Airy กับ Ambient มีความหมายคล้ายๆกันค่ะ ถ้าว่ากันตามหลักการแล้ว Ambient จะหมายถึง การสะท้อนของเสียงที่เกิดตามสภาพแวดล้อมนั้นๆ เช่น เวลาอยู่ในห้องแคบๆแล้วเราพูดออกมา เสียงสะท้อนที่เกิดขึ้นจะถูกเรียกว่า Ambient ค่ะ ลักษณะของเสียงเกิดขึ้นจะมีทั้ง "เสียงรีเวิร์บ" และ " เสียงเอคโค่" ค่ะ

ถ้าจะให้อธิบายกันให้ละเอียด ลักษณะแบบ airy หรือ ambient ก็คือความรู้สึกที่เหมือนมีเสียงก้องสะท้อนเบาๆตามลักษณะอะคูสติกของห้อง เสียงเหล่านั้นจะทำให้เรารู้สึกว่ามันเปิดกว้าง โล่ง โปร่ง นั่นแหละค่ะ ชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นจะให้ความรู้สึกว่ามีมวลอากาศห่อหุ้มอยู่ ถ้าไม่เคยฟังอาจจะนึกภาพตามไม่ออกน่ะค่ะ คือ อย่างจังหวะการสีไวโอลีน ถ้าห้องมีอะคูสติคที่ดี และมีการ set ลำโพงที่ได้ตำแหน่งถูกต้อง เราจะรับความรู้สึกได้เลยว่า นักดนตรีที่กำลังสีไวโอลีนตรงหน้าเหมือนมีมวลอากาศห่อหุ้มและลื่นไหลไปตาม จังหวะของการสี

ลักษณะเหล่านั้นเรามักเรียกกันว่า ชิ้นดนตรีมีแอมเบี๊ยนต์ห่อหุ้มอยู่

นอก จากนี้ ถ้าพูดถึง airy ก็จะหมายถึงชิ้นดนตรีที่ให้ความรู้สึกเปิดโล่ง ให้อารมณ์เหมือนมีอากาศรอดผ่านไหลเวียนในแต่ละชิ้นดนตรีค่ะ การมี airy หรือ ambient จะทำให้เราสัมผัสชิ้นดนตรีได้ชัดเจนมากขึ้น และยังให้ความรู้สึกถึงชีวิตชีวา หรือ live ของดนตรีอีกด้วยค่ะ

Blassy

ลักษณะของเสียงที่ออกจะเน้นไปทางเสียงด้านความถี่ต่ำมากกว่าเสียงกลางและ เสียงแหลม ค่ะ เวลาฟังจะรู้สึกว่าเสียงทุ้มๆจะดังล้ำหน้าเสียงอื่นๆเลยค่ะ ตัวอย่างของ Blassy ก็จะมีหูฟังของ Soken รุ่น AS-800 ค่ะ หรือไม่ก็การปรับ EQ เป็น V-Shape น่ะค่ะ

Blanketed

อันนี้หมายถึงเสียงที่อับ ทึบ เสียงแหลมโดนเกลาจนมน ไม่ใสกังวาล คล้ายๆกับเอาผ้าหนาๆมาบังลำโพงไว้ทำให้เสียงแหลมโดนบดบังซะเสียรูปเลยน่ะค่ะ

Bloated

เป็นอาการที่จะได้ยินก็ต่อเมื่อมีการให้ปริมาณของเสียงย่านความถี่ต่ำใน ช่วงของ Mid-Bass ( ช่วงประมาณ 250Hz ค่ะ ) มากจนเกินไป ทำให้เกิดเสียงทุ้มที่ไม่กระชับฉับไว เก็บตัวช้า เสียงจะสั่นไม่นิ่ง จนรู้สึกว่าเสียงดนตรีในย่านนั้นจะเบลอไม่คม

Blurred

เป็นอาการที่ตอบสนองความเร็วฉับพลันได้ไม่ดีค่ะ เสียงจะพร่าเลือน การโฟกัสมัวไม่ตรง ชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นจะขาดความคมชัด เสียงกลางแทบจะจับไม่ได้เลยค่ะเพราะมันจะมัวมาก ( จริงๆไม่เห็นต้องอธิบายเลยเนอะค่ะ เบลอ นี่ใครๆก็รู้ ฮิฮิ )

Boomy

อันนี้จะเหมือน Bloated ค่ะ เพียงแต่จะเกิดขึ้นในย่านความถี่ต่ำกว่า Bloated ค่ะ คือจะเกิดในช่วง Lower-Bass ค่ะ ( ประมาณช่วง 125Hz) ถ้ามีทั้ง Boomy และ Bloated เกิดขึ้นพร้อมกัน เราจะเรียกว่า บวม อืด ค่ะ

Boxy

ส่วนมากจะเกิดกับลำโพงค่ะ เพราะลำโพงบางตัวออกแบบภายในไว้ไม่ดี ทำให้มีเสียงสะท้อนก้องภายในตู้ลำโพงออกมาปนกับเสียงดนตรี ทำให้เวลาฟังแล้วรู้สึกเสียงดังอู้ๆ ชวนให้หงุดหงิดค่ะ

เขียนโดย StaxFire จากเว็ป Pantip.com

ไม่มีความคิดเห็น: